TowGrab Logo
จองเลย
ช่วยเหลือฉุกเฉิน

รถเสียในไทยทำไงดี? คู่มือเรียกบริการช่วยเหลือฉุกเฉินและรถลาก

TowGrab Team
2025-12-19
อ่าน 12 นาที
รถเสียในไทยทำไงดี? คู่มือเรียกบริการช่วยเหลือฉุกเฉินและรถลาก

รถเสียกลางทางไม่ต้องตกใจ! อ่านคู่มือวิธีเรียกรถลากและบริการช่วยเหลือฉุกเฉินในไทย พร้อมวิธีสื่อสารเมื่อพูดไทยไม่ได้ และการเลือกบริการที่ไว้ใจได้

ลองจินตนาการดูว่า คุณกำลังขับรถเพลินๆ ไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือกำลังฝ่ารถติดในกรุงเทพฯ เพื่อไปทำงาน จู่ๆ เครื่องยนต์ก็ดับ หรือได้ยินเสียง "ตึ้กๆๆ" ของยางแตก

รถเสียเป็นเรื่องน่าปวดหัวเสมอ แต่ถ้ามันเกิดขึ้นในที่ที่คุณไม่คุ้นเคย หรือในเวลาเร่งด่วน ความเครียดก็จะทวีคูณ

อย่าเพิ่งตกใจ! ประเทศไทยมีเครือข่ายบริการช่วยเหลือฉุกเฉินและรถลากที่ครอบคลุม บทความนี้จะแนะนำขั้นตอนที่ถูกต้องในการขอความช่วยเหลือ เพื่อให้คุณกลับมาเดินทางต่อได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

1. ความปลอดภัยต้องมาก่อน

ก่อนจะโทรหาใคร คุณต้องจัดการให้ตัวเองและรถอยู่ในจุดที่ปลอดภัยที่สุดก่อน เพราะรถที่จอดนิ่งบนถนนที่รถวิ่งเร็วคืออันตรายอย่างยิ่ง

  • ชิดซ้ายทันที: ถ้ารถยังพอขยับได้ ให้ประคองรถเข้าไหล่ทางซ้ายสุดทันที อย่าจอดคาเลนกลางถนนถ้าไม่จำเป็น
  • เปิดไฟฉุกเฉิน: เปิดไฟผ่าหมากทันที เพื่อส่งสัญญาณให้รถคันอื่นรู้ว่า "รถฉันมีปัญหา"
  • ป้ายสามเหลี่ยม: ถ้ามีป้ายสะท้อนแสง ให้วางไว้ท้ายรถห่างออกไปอย่างน้อย 50 เมตร เพื่อเตือนรถที่วิ่งมาข้างหลัง
  • หาที่ปลอดภัย: ถ้าอยู่บนทางด่วน แนะนำให้ลงมายืนรอนอกรถ หลังแบริเออร์กั้นถนนจะปลอดภัยที่สุด

2. ประเมินสถานการณ์

รถเป็นอะไร? การรู้สาเหตุเบื้องต้นจะช่วยให้คุณเรียกช่างได้ถูกประเภท

  • ยางแตก: มียางอะไหล่ไหม? เปลี่ยนเองเป็นไหม? ถ้าไม่ คุณต้องการบริการปะยางนอกสถานที่
  • แบตหมด: ลืมปิดไฟหรือเปล่า? อาจจะแค่ต้องการบริการพ่วงแบต (Jump Start)
  • น้ำมันหมด: เรื่องเล็กที่เกิดขึ้นได้ คุณต้องการบริการส่งน้ำมันฉุกเฉิน
  • เครื่องพัง/ความร้อนขึ้น: ขับต่อไม่ได้แน่นอน คุณต้องการรถสไลด์ (Slide Car) หรือรถลาก
  • อุบัติเหตุ: ถ้ามีคู่กรณี ต้อง โทรเรียกประกันก่อนขยับรถ (ยกเว้นกีดขวางจราจรมากและถ่ายรูปไว้แล้ว)

3. โทรหาใครดี?

คุณมี 3 ทางเลือกหลักๆ

ทางเลือก A: ประกันภัยรถยนต์ของคุณ

ประกันชั้น 1 ส่วนใหญ่จะมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินฟรี

  • ข้อดี: ฟรี (ในระยะทางที่กำหนด)
  • ข้อเสีย: รอนานมาก (บางที 1-2 ชั่วโมง) และมักใช้ผู้รับเหมาช่วงซึ่งคุณภาพบริการอาจไม่แน่นอน

ทางเลือก B: ตำรวจทางหลวง / หน่วยกู้ภัย

ถ้าจอดในจุดอันตราย หรือกีดขวางการจราจร

  • ตำรวจทางหลวง: โทร 1193
  • ข้อดี: ช่วยจัดการจราจรและความปลอดภัยได้ดี
  • ข้อเสีย: เขาไม่ใช่ช่าง เขาอาจจะแค่ลากรถคุณไปพ้นทาง หรือไปส่งอู่ที่ใกล้ที่สุด (ซึ่งอาจไม่ใช่อู่ที่ดีที่สุด)

ทางเลือก C: บริการช่วยเหลือเอกชน (แนะนำ)

บริการอย่าง TowGrab ที่เน้นความรวดเร็วและมืออาชีพ

  • ข้อดี: มาไว บริการสุภาพ รถใหม่สะอาด ราคาชัดเจน และคุณเลือกได้ว่าจะให้ยกรถไปที่ไหน
  • ข้อเสีย: มีค่าใช้จ่าย (แต่คุ้มค่าแลกกับความรวดเร็วและการดูแลรถที่ดี)

ทำไมต้อง TowGrab?

เราคือแพลตฟอร์มเรียกรถสไลด์ที่เชื่อถือได้ เช็คราคาได้ก่อนจอง ติดตามรถได้แบบ Real-time และการันตีความปลอดภัยของรถคุณ

จองรถสไลด์ทันที

4. การบอกพิกัด (Location)

"อยู่บนถนนวิภาวดี ใกล้ๆ เซเว่น" อาจจะไม่พอ เพราะเซเว่นมีทุกปั๊ม

  • Google Maps: ดีที่สุด เปิดแอป ปักหมุดจุดที่อยู่ แล้วแชร์ผ่าน Line
  • หลักกิโลเมตร: มองหาเสาหลักกิโลข้างทาง จะมีตัวเลขบอกพิกัดที่แม่นยำ
  • จุดสังเกต: ป้ายร้านค้าใหญ่ๆ หรือสถานที่ราชการใกล้เคียง

5. เรื่องค่าใช้จ่าย

กลัวโดนฟันราคา? นี่คือราคามาตรฐานที่คุณควรรู้

  • ค่าบริการเริ่มต้น: รถสไลด์ส่วนใหญ่เริ่มต้นที่ 1,500 - 2,500 บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดรถ)
  • ค่าระยะทาง: คิดเพิ่มตามกิโลเมตรหลังจากระยะฟรี (ถ้ามี) เฉลี่ย กม. ละ 25-50 บาท
  • ช่วงเวลาพิเศษ: กลางดึก หรือวันหยุดเทศกาล อาจมีชาร์จเพิ่ม 30-50%
  • ความชัดเจน: ควรถามราคาสุทธิ หรือราคาประเมินก่อนเรียกรถเสมอ ที่ TowGrab เราแจ้งราคาก่อนให้บริการ ไม่มีบวกเพิ่มหน้างาน

6. ระหว่างรอรถ

การจราจรในไทยคาดเดายาก บางทีรถยกอาจติดรถติดอยู่

  • รอในที่ปลอดภัย: ถ้าริมถนนเปลี่ยว ล็อครถและรอในรถ แต่ถ้าอยู่บนทางด่วน รอข้างนอกปลอดภัยกว่า
  • เตรียมเอกสาร: เตรียมใบขับขี่และเล่มทะเบียน (หรือสำเนา) ไว้แสดงความเป็นเจ้าของรถ

สรุป

รถเสียไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย ถ้าคุณมีสติและรู้วิธีจัดการ การเลือกใช้บริการมืออาชีพอย่าง TowGrab จะช่วยเปลี่ยนเรื่องร้ายๆ ให้กลายเป็นแค่เรื่องขัดข้องเล็กน้อยในวันเดินทางของคุณ

เมมเบอร์หรือแอดไลน์ TowGrab ไว้ตอนนี้เลย อุ่นใจกว่าเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินครับ

แชร์บทความนี้
Line
Line
ขอใบเสนอราคา